Home » Action หนังแอคชั่น , Crime หนังอาชญากรรม , Drama หนังดราม่า , Thriller หนังระทึกใจ
» Need For Speed (2014) ซิ่งเต็มสปีดแค้น
Need For Speed (2014) ซิ่งเต็มสปีดแค้น
ระหว่างและหลังชมหนังเรื่องนี้ ผมก็มักนึกใจว่า ‘มันส์ชะมัด เสียงรถสะใจสุดๆ’ และคิดว่า วันนี้ ผมคงต้องเขียนเรื่องพวกนี้เพื่อบอกกับทุกๆ คนที่ได้มาอ่าน (หรือหลงเข้ามาอ่าน) เรื่องราวของนักแข่งรถในหนังรถแข่งที่สร้างมาจากเกมชื่อดังเรื่องนี้ Need For Speed ถ้าจะเล่าให้ง่ายๆ ก็คงมีแค่ การแข่งซิ่งรถของพระเอกที่ต้องการลบล้างแค้นในใจที่น้องชายถูกฆ่าตายบนถนนนี่แหละเอกลักษณ์หนึ่งของเกมชื่อเดียวกันนี้ คือ การขับรถซิ่งแข่งกันในเมืองใหญ่ที่มีรถตำรวจเข้ามาเป็นตัวกวน การซิ่งรถแข่งไปพร้อมๆ กับการหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจไปด้วย ทำให้มันกลายเป็นความสนุกยกกำลังสองมันเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกจับเข้าคุกทั้งที่ตนไม่ได้ทำผิด แต่ต้องใช้เวลาในนั้นเป็นปีเพื่อเก็บกดความแค้นไว้ในใจ เหตุเพราะการแข่งรถครั้งเก่าที่คร่าชีวิตบุคคลผู้เป็นเสมือนน้องชายสุดรักไป แถมคนร้ายยังลอยนวล และเขาคือคนที่ถูกป้ายสีความผิด ฟังดูเหมือนสปอยล์ใช่มั้ยครับ จริงๆ ตัวอย่างหนังก็เล่ามาขนาดนี้แล้วล่ะเธอ เรื่องราวมันดูเน้นดราม่า ทว่ามันเป็นหนังรถแข่ง ซึ่งเขาก็พยายามจะเอามายำเข้าด้วยกัน กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยรถซูเปอร์คาร์ สวยและแพงระยับ ความแตกต่างระหว่างชนชั้นจึงถูกนำมาใส่ไว้ในหนัง พระเอก Tobey Marshall (Aaron Paul) เป็นเจ้าของอู่แต่งรถจนๆ ที่เป็นนักแข่งรถระดับแชมป์ท้องถิ่น ที่อู่ของตนกำลังเผชิญปัญหาทางการเงิน ขณะที่ตัวร้าย Dino Brewster (Dominic Cooper) กลับเป็นพวกรวยอู้ฟู่มีซูเปอร์คาร์รุ่นเดียวกันหลายๆ คันสะสมเก็บไว้ในบ้านไม่ได้มีแค่เรื่องดราม่าแค้นที่น้องตาย แต่ยังมีเรื่องดราม่าของความรักด้วยนะครับ เมื่อตัวร้ายดีโน่มีผู้หญิงข้างกายเป็นแฟนเก่าของพระเอก แต่ปมนี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้มากนัก พระเอกเสียอีกกลับได้พบรักใหม่ที่มาไวเคลมไวเหลือหลาย เมื่อ Julia Maddon (Imogen Poots) สาวสวยผู้ชื่นชอบในรถสวยต้องมานั่งไปด้วยในรถคันที่พระเอกยืมมาขับ เธอกลายเป็นจุดเด่นในหนังอีกจุดที่ทำให้เราได้นั่งมองระหว่างซิ่งไปบนถนน…เส้นนั้นทันทีหลายคนค่อนขอดว่า ‘Need For Speed’ ของ Scott Waugn เป็นแค่หนังโชว์รถสวยที่ใส่ดราม่าเข้ามาอย่างไม่จำเป็น ถึงกระนั้น ผมก็ยังคิดว่า หนังยังมีมุมดีๆ ให้เลือกมอง แม้เรื่องราวในหนังจะค่อนข้างขาดความน่าสนใจ เพราะการแก้แค้นให้น้องชายดูน่าเบื่อเกินไป แต่ดราม่าที่ใส่เข้ามาก็ค่อนข้างทำให้ผมอินกับมันได้พอสมตัว สิ่งที่ผมชื่นชอบในหนังเรื่องนี้ก็คงไม่พ้นซาวด์ที่ทำออกมาได้โดดเด่นเกินคาด เสียงเครื่องยนต์ต่างชนิดกัน หูเราสามารถแยกออกได้ชัดเจนขณะที่ฉากไล่ล่าและซิ่งแข่งกันบนถนนผสมกับซาวด์ที่กระหึ่มดีก็ทำให้ได้ลุ้นมันๆ กับช่วงเวลานั้นได้เต็มๆ เหมาะกับการรับชมในแบบ 4DX ที่กระเด้งกระดอนตามเรื่องราว และก็เหมาะกับการรับชมในแบบจอใหญ่เสียงกระหึ่มๆ อย่าง IMAX ด้วยเช่นกัน เลือกชมกันได้ตามสะดวก อย่างไรก็ตาม หนังยังแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะเน้นทั้งฉากดราม่าและฉากแข่งรถอยู่ โดยไม่เทไปทางข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้คนที่เลือกข้างไม่ค่อยพอใจกับหนังเท่าใดนัก